วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ไขมันกับการอุดตันของหลอดเลือด


ไขมันกับการอุดตันของหลอดเลือด

            ในปัจจุบันโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุการเสียชีวิตลำดับต้นๆ ซึ่งจากการรับสื่อต่างๆ ที่ผ่านมา ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคนั้นมากจากคอเลสเตอรอล ซึ่งแท้จริงแล้วคอเลสเตอรอล ไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังโรคนี้แต่เกิดจากการอักเสบของหลอดเลือดต่างหากมีรายงานการวิจัยในสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยข้อเท็จจริง ให้เห็นว่าผู้ป่วยในสหรัฐอเมริกาที่ประสบกับภาวะหัวใจล้มเหลวมากกว่าครึ่งนั้น มีระดับของคอเลสเตอรอลอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิวัติด้านการรักษาและป้องกันโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น แทนที่จะให้ความสำคัญกับการลดปริมาณคอเลสเตอรอลแต่เพียงอย่างเดียว ก็ต้องหันมาเข้าใจขั้นตอนที่จำเป็นในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบของเส้นเลือดการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ จึงมีความสำคัญต่อการป้องกันการเกิดโรคหัวใจ


            ในปัจจุบันมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่ากระบวนการอักเสบมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการก่อตัวของโรคเส้นเลือดตีบแข็ง รวมทั้งการแตกของคราบไขมันในรายที่เกิดเส้นเลือดอุดตันเฉียบพลัน โดยเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ทางการแพทย์ยอมรับว่า การแตกของพลาค ชนิดอ่อนนิ่ม Soft Vulnerable Plaque ซึ่งมีเปลือกบางๆ และมีการอักเสบเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เป็นสาเหตุหลักของการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งนำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน

            ขบวนการเกิดพลาคชนิดอ่อนนิ่ม (Soft Vulnerable Plaque) เริ่มจาก LDL ในกระแสเลือด ถูกดูดซึมเข้าไปที่ผนังหลอดเลือด แล้วเกิดปฏิกิริยาสันดาป เนื่องจากว่าร่างกายมีภาวะสารอนุมูลอิสระสูง เช่น ภาวะสาพิษสารโลหะหนักในร่างกายเรื้อรัง ซึ่งจะกลายเป็นสารก่อการระคายเคือง แล้วเกิดการหลั่งสารส่งเสริมให้เกิดการอักเสบออกมาเมื่อมีการอักเสบจะไปเรียกเม็ดเลือดขาวที่เกี่ยวข้อง คือ Monocyte ออกมา เม็ดเลือดขาวนี้จะแทรกเข้าไปในผนังหลอดเลือด แล้วกลายเป็นเม็ดเลือดขาวชนิดเก็บกวาดคือ มาโครฟาจ ซึ่งจะเก็บกวาดไขมันเข้าไปในตัว กลายเป็นเซลล์อ้วนเรียกว่า Foam Cell ซึ่งข้างในเต็มไปด้วย LDL ที่ถูกสันดาปแล้วทำให้บางส่วนตายไป บางส่วนสร้างเอนไซม์ออกมาย่อยสลายเปลือกของคราบไขมัน ทำให้เปลือกบางลงและเสี่ยงต่อการแตกได้


            นักวิจัยได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่าการอักเสบในหลอดเลือด จะเป็นต้นตอของทุกสิ่ง ที่นำไปสู่หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน จากการศึกษา เราพบว่าพลาคชนิดนิ่มนี้ เกิดขึ้นได้หลายจุด เช่น การศึกษาผู้ที่เกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน พบพลาคชนิดนิ่มแตกสองจุด หรือมากกว่าสองจุขึ้นไป โดยพบ 50-79% จากการตรวจอัลตราซาวน์ของหลอดเลือดจากภายในผนังหลอดเลือดโดยตรง

            ปัญหาของโรคหัวใจ บางทีก็ไม่มีสัญญาณเตือน หรือไม่สามารถทราบก่อนล่วงหน้าได้ ซึ่งในบางคนนั้น ภายนอกอาจจะดูแข็งแรงปกติดี ไม่มีอาการแสดงใดๆ ทั้งการตรวจเลือดและวิ่งสายพาน ฯลฯ ก็ไม่พบความผิดปกติ หรือดูแล้วก็ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอุดตันเฉียบพลันเลย มีกรณีศึกษาอยู่รายหนึ่ง ซึ่งทำงานเป็นนักบินมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และก่อนหน้าที่จะไปบินก็ได้ทำการตรวจร่างกาย โดยการประเมินการทำงานของหัวใจจากการวิ่งสายพาน ผลการตรวจพบว่า ร่างกายปกติดีทุกอย่าง แต่ปรากฏว่าในคืนก่อนที่จะขึ้นบิน ขณะที่รับประทานอาหารอยู่ ก็มีอาการจุกแน่นหน้าอกจนหมดสติ และสุดท้ายก็เสียชีวิต เพราะเพิ่งทำการตรวจร่างกายไป และผลการตรวจร่างกายก็ปกติดีทุกอย่างจึงตัดสินใจผ่าพิสูจน์ศพดู ก็พบว่ามีลิ่มเลือดอุดตันอยู่ที่หัวใจ

            เรื่องนี้ ทางแพทย์โรคหัวใจเอง บางทีก็ไม่เว้น แม้ว่าจะตรวจเช็คสุขภาพอย่างดี แม้จะเป็นนักวิ่งมาราธอน แต่หากไม่ได้ตรวจเช็คดูถึงระดับการอักเสบในร่างกาย ระดับของสารโลหะหนักสะสมด้วยการทำ Urine Challenge Test ตรวจเช็คระดับของอนุมูลอิสระ และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น การตรวจ BAP/DROM Test แล้วบางทีก็อาจป่วยด้วยโรคลิ่มเลือดอุดตันในหัวใจได้แบบเฉียบพลัน ดังที่เคยมีมาแล้ว


            ดังนั้น พลาคชนิดไม่เสถียร นิ่ม และแตกง่ายนี้ จึงไม่มีสัญญาณเตือน และตรวจไม่ได้ด้วยวิธีทั่วๆ ไป ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่มีอาการแสดงให้เห็น แม้ว่าจะทำการตรวจการทำงานของหัวใจโดยการวิ่งสายพาน ก็ยังไม่พบความผิดปกติ เพราะเป็นการอักเสบของหลอดเลือด ซึ่งเลือดก็ยังมีการไหลเวียนตามปกติ แต่บริเวณที่เกิดการอักเสบ ผนังหลอดเลือดจะเปราะบางมาก และพร้อมจะแตกออกมาได้ตลอดเวลา ซึ่งผนังบางๆ แบบนี้ มีพลาคชนิดบางแบบไม่เสถียร ซึ่ง พลาคชนิดนี้ อันตรายมากที่สุดเพราะเมื่อแตกออกมา จะก่อให้เกิดลิ่มเลือดขนาดใหญ่ และภายในเวลา 2-3 วินาทีจากนั้นลิ่มเลือดก็จะไปอุดตันทำให้หัวใจขาดเลือดทันที เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตกะทันหันได้ ซึ่งปัจจุบันนี้แพทย์พบว่า ผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมีประมาณ 70% ที่เกิดจากพลาคไม่เสถียร ก็คือการอักเสบนั่นเอง

            สาเหตุของการอักเสบของร่างกายนั้น ก็มาจากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งสารอนุมูลอิสระก็มาจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา เช่น อากาศที่เราหายใจ อาหารที่เรารับประทานเข้าไปมีสารปนเปื้อน สารพิษโลหะหนัก เป็นต้น ซึ่งเมื่อสะสมในร่างกายและเป็นปัญหาโรคแห่งความเสื่อเรื้อรังต่างๆ ตามมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น